พระเจ้าเฮนรีที่ 7 ของ สงครามดอกกุหลาบ

พระเจ้าเฮนรีที่ 7

หลังจากการพ่ายแพ้ในการปฏิวัติของดยุกแห่งบักกิงแฮมแล้วผู้สนับสนุนหลายคนและขุนนางอื่นที่ละทิ้งสมเด็จพระเจ้าริชาร์ดก็หนีไปรวมตัวกับเฮนรี ทิวดอร์ที่ลี้ภัยอยู่ในบริตตานี พระเจ้าริชาร์ดทรงพยายามติดสินบนมนตรีของดยุกแห่งบริตตานีให้ทรยศต่อเฮนรีแต่เฮนรีก็ได้รับการเตือนและสามารถหนีไปยังฝรั่งเศสและไปทรงได้รับที่พำนักลี้ภัยและการสนับสนุนที่นั่น[14]

เมื่อเริ่มมีความเชื่อมั่นว่าขุนนางเป็นจำนวนมากและแม้แต่ข้าราชสำนักของพระเจ้าริชาร์ดเองจะหันมาสนับสนุนพระองค์ เฮนรี ทิวดอร์ก็ออกเดินทางจากฮาร์เฟลอร์ (Harfleur) ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1485 พร้อมกับกองที่ไปลี้ภัยและทหารรับจ้างชาวฝรั่งเศส และมาขึ้นฝั่งที่เพมโบรคเชอร์หกวันต่อมา ผู้ที่สมเด็จพระเจ้าริชาร์ดแต่งตั้งในเวลส์ถ้าไม่หันไปสมทบกับกองทัพของเฮนรี ก็ยอมให้ผ่านโดยมิได้ต่อต้าน เฮนรีรวบรวมผู้สนับสนุนตลอดทางที่เดินผ่านมาในเวลส์และภูมิภาคชายแดนเวลส์ (Welsh Marches) เและเมื่อปะทะกับกองทัพของพระเจ้าริชาร์ดในยุทธการที่บอสเวิร์ธฟิลด์ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 1485 เฮนรีก็ได้รับชัยชนะ พระเจ้าริชาร์ดถูกสังหารในสนามรบกล่าวกันว่าโดยทหารเวลส์ชื่อ Rhys ap Thomas จากแรงเหวี่ยงของขวานที่พระเศียร Rhys ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นขุนนางสามวันหลังจากนั้น

เฮนรีผู้ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าเฮนรีที่ 7 สร้างความมั่นคงให้แก่ราชบัลลังก์โดยการเสกสมรสกับเอลิซาเบธแห่งยอร์ก พระราชธิดาในพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 ฉะนั้นสมเด็จพระเจ้าเฮนรีจึงทรงเป็นผู้รวมสองราชวงศ์เข้าเป็นราชวงศ์เดียว และทรงรวมสัญลักษณ์ของสองราชวงศ์กุหลาบแดงแห่งแลงแคสเตอร์และกุหลาบขาวแห่งยอร์กเป็นสัญลักษณ์ใหม่ที่เรียกว่ากุหลาบทิวดอร์ที่มีทั้งสีแดงและขาวในดอกเดียวกัน นอกจากนั้นพระองค์ก็ยังทรงสร้างเสริมความมั่นคงโดยการสังหารผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์คนอื่น ๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่จนหมดสิ้น ซึ่งเป็นนโยบายที่ดำเนินต่อมาโดยพระราชโอรสพระเจ้าเฮนรีที่ 8

นักประวัติศาสตร์หลายคนถือว่าการขึ้นครองราชบัลลังก์ของสมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 7 เป็นการสิ้นสุดของสงครามดอกกุหลาบ แต่นักประวัติศาสตร์บางคนกล่าวว่าสิ้นสุดหลังจากยุทธการสโตคฟิลด์ในปี ค.ศ. 1487 เมื่อเด็กหนุ่มชื่อแลมเบิร์ต ซิมเนลผู้มีหน้าตาคล้ายเอ็ดเวิร์ด แพลนทาเจเน็ท เอิร์ลแห่งวอริคที่ 17 บุตรของดยุกแห่งแคลเรนซ์ มาอ้างตัวว่ามีสิทธิในราชบัลลังก์ แต่ก็เป็นแผนการณ์ที่มีข้อบกพร่องตรงที่ตัวเอ็ดเวิร์ด แพลนทาเจเน็ทจริงยังคงมีชีวิตอยู่และอยู่ในการอารักขาของพระเจ้าเฮนรีเอง พระเจ้าเฮนรีจึงทรงนำเอ็ดเวิร์ด แพลนแทเจเนตไปแสดงตัวรอบลอนดอนเพื่อให้เห็นว่าซิมเนลเป็นตัวปลอม ในยุทธการที่สโตกฟิลด์พระเจ้าเฮนรีก็ทรงสามารถเอาชัยชนะต่อกองกำลังของจอห์น เดอ ลา โพล เอิร์ลที่ 1 แห่งลิงคอล์น ผู้ที่พระเจ้าริชาร์ดทรงแต่งตั้งให้เป็นรัชทายาทซึ่งเป็นการกำจัดผู้เป็นปฏิปักษ์ฝ่ายยอร์กคนสุดท้าย ซิมเนลได้รับพระราชทานอภัยโทษ

แต่ในปี ค.ศ. 1491 ราชบัลลังก์ของพระเจ้าเฮนรีก็สั่นคลอนอีกครั้งหนึ่งเมื่อเพอร์คิน วอร์เบ็คอ้างตัวว่าเป็นริชาร์ดแห่งชรูว์สบรี ดยุกที่ 1 แห่งยอร์ก พระอนุชาของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 แต่ในที่สุดก็ทรงแก้ปัญหาได้ในปี ค.ศ. 1499 เมื่อทรงจับตัววอร์เบ็คและประหารชีวิตได้

ใกล้เคียง

สงครามโลกครั้งที่สอง สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สงครามเวียดนาม สงครามกลางเมืองอเมริกา สงครามแปซิฟิก สงครามเกาหลี สงครามอ่าว สงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สอง สงครามครูเสด สงครามกัมพูชา–เวียดนาม